Date: February 25, 2016
Author: Grip Thailand
ไฟส่องสว่าง
ไฟส่องสว่างสำคัญมาก โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกหนักจนมองเห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเจน ไฟส่องสว่าง นอกจากจะเป็นจุดสังเกต ยังเป็นไฟสัญญาณบ่งบอกว่าคุณจะเปลี่ยนทิศไปทางไหนอีกด้วย หน้า ฝนนี้ จึงควรตรวจสอบ ไฟหรี่ ไฟหน้าทั้งสูง และต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟถอยหลัง และไฟส่องป้าย ทะเบียน
ทิศทางลำแสงของไฟหน้าเป็นสิ่งสำคัญมาก หลายคันแม้เป็นไฟต่ำก็ยังแยงตาเหมือนไฟสูง เดือด ร้อนรถที่วิ่งสวนทาง บางคนเห็นว่าฝนตกหนักมากกลัวว่าเปิดไฟต่ำ แล้วรถคันอื่นจะมองเห็น รถตนไม่ชัดเจนจึงเปิดไฟสูง ไม่ต้องหรอก เพราะเมื่อวิ่งเข้าใกล้แสงจะไปเข้าตาคนขับรถคันที่ สวนมาจนพร่า ลำพังฝนตกหนักก็มองไม่ชัดอยู่แล้ว ฉะนั้นเปิดแค่ไฟต่ำก็เพียงพอ
เลิกเปิดไฟฉุกเฉินได้แล้ว !
ใครที่ยังคิดว่าฝนตกหนักต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เลิกเสียทีถ้าไม่อยากตกยุค เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเปิดกันแล้ว เพราะส่วนใหญ่เข้าใจกันแล้วว่า มีโทษมากกว่าประโยชน์ นอกจากจะทำให้ผู้อื่นตาลายแล้วยัง ทำให้ผู้ที่ขับตามมาแยกไม่ออกว่า จอดเสีย หรือวิ่งอยู่ บางคันก็เปลี่ยนเลนไปมาทั้งที่เปิดสัญญาณ ไฟ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก
ไฟตัดหมอกล่ะ ?
อาจไม่ตรงชื่อทีเดียว เพราะบ้านเราไม่ค่อยมีหมอกให้ไฟมาตัดกันสักเท่าไร แต่จะได้ประโยชน์ก็ เมื่อฝนตกหนักมากจนแทบมองไม่เห็นทาง และสิ่งแวดล้อมรอบตัว เดี๋ยวนี้รถยุโรป และรถ ยุคใหม่มักจะติดตั้งไฟตัดหมอกทั้งหน้า และหลังมาให้จากโรงงาน ถ้าเป็นอย่างกรณีที่ว่า ก็สมควรเปิดใช้เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ชัดเจนขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีค่าความสว่าง และทิศทางที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนไปจากโรงงานผลิต และผู้ใช้ต้องตรวจสอบอย่างสม่ำ เสมอเพื่อไม่ให้แสงไปเข้าตาผู้ขับรถคันอื่น