About us

กริพเดียว จบเรื่องยาง เตรียมพบกับศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร ที่นี่ เร็วๆ นี้

พวงมาลัยหนัก เกิดขึ้นได้อย่างไร…?

สิ่งแรกที่เช็กได้เลยก็คือ ลมยางรถอาจจะไม่เท่ากัน หากเรามั่นใจว่าเติมลมมาปกติ สาเหตุอาจจะเกิดจากการรั่วก็ได้ 1. เฟืองบังคับเลี้ยวฝืด เนื่องจากขาดสารหล่อลื่น ซึ่งเจ้าเฟืองนี้จำเป็นจะต้องมีสารหล่อลื่น หากตัวเฟืองนั้นแห้ง ก็จะทำให้พวงมาลัยรถนั้นหมุนฝืดขึ้นได้ 2. ข้อต่อที่เกี่ยวกับระบบบังคับเลี้ยวขาดสารหล่อลื่น อาจจะคล้ายกับบริเวณของเฟืองทดแรง แต่ข้อต่อพวกนี้สำคัญกว่า เพราะถ้าจุดข้อต่อแห้ง นอกจากจะทำให้พวงมาลัยหนักมือขึ้นแล้ว บางทีอาจจะเกิดการล้อล๊อกระหว่างเลี้ยวได้ 3. องศาหรือศูนย์ล้อไม่ตรง สำหรับรถแต่งที่ตั้งใจให้มุมแคมเบอร์ และแองเกอร์ต่างไปตามการใช้งาน อาจจะไม่ต้องกังวลมากนัก แต่สำหรับรถยนต์ทั่วไปหากศูนย์ไม่ตรง ก็เท่ากับรถวิ่งไม่ตรงทาง ทำให้ต้องรั้งพวงมาลัยเอาไว้ตลอด ส่งผลให้เมื่อยล้าจากการขับขี่ และรถยังถูกใช้งานหนักในส่วนบังคับเลี้ยวอีกด้วย 4. ยางรถยนต์ขนาดใหญ่กว่าเดิม สำหรับใครที่เปลี่ยนใส่ล้อแม็กซ์หน้ากว้างหรือใหญ่กว่าเดิม หรือใส่ยางที่หน้ากว้างกว่าเดิมแล้วละก็ ปัญหาพวงมาลัยหนักอาจเกิดจากสาเหตุนี้เช่นกัน เพราะเมื่อหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมาก อาจทำให้เราต้องออกแรงบังคับพวงมาลัยมากขึ้นไปด้วย 5. อะไหล่บางส่วนชำรุด อาจมีในทุกส่วนของระบบบังคับเลี้ยว เพราะมีข้อต่อเยอะ หากตรวจพบควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที 6. อีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้ไม่ยากคือ “น้ำมันพาวเวอร์” ที่อยู่ในห้องเครื่อง ควรดูแลรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติของกระปุก หากต่ำกว่าเกณฑ์หรือแห้ง อาจมีปัญหาส่วนอื่นตามมาอีก

สีรถพังแน่ ถ้าทำ 4 สิ่งนี้ หลังฝนตก!

1. เช็ดรถด้วยผ้าแห้งขณะรถเปียกฝน หลังจากที่ขับรถฝ่าสายฝนมาใหม่ๆ หลายคนคงอยากให้รถกลับมาแห้งเหมือนเดิมโดยเร็ว แต่การใช้ผ้าแห้งเช็ดบนตัวถังที่เปียกในทันที จะทำให้รถเป็นรอยได้ เนื่องจากน้ำมีสิ่งสกปรกเกาะตัวอยู่ เช่น ดิน, ทราย, เศษไม้ เป็นต้น ทางที่ดีควรล้างรถไปเลยจะดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดสิ่งสกปรกเหล่านั้นให้หลุดออกไปเสียก่อน 2. จอดรถกลางแดดจัดขณะเปียกฝน หลังจากฝนตกใหม่ๆ ไม่ควรจอดรถไว้กลางแดดทันทีหากเลี่ยงได้ เพราะจะทำให้คราบน้ำฝนเหล่านั้นกลายเป็นรอยฝังแน่น ส่งผลต่อชั้นสีรถได้ 3. ไม่ล้างรถเลย หลายคนคิดว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องล้างรถ เพราะอย่างไรเดี๋ยวฝนก็ตกอยู่ดี ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะการล้างรถจะช่วยป้องกันคราบฝังแน่นที่เกิดบนผิวรถ ซึ่งอาจทำให้สีรถเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะคราบมูลนกที่ทำให้เกิดรอยด่าง ซึ่งจะไหลย้อยไปตามจุดต่างๆ เมื่อโดนฝน ดังนั้นจึงควรล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนก็ตาม 4. สีถลอกต้องรีบทำสี หากผิวรถมีรอยถลอกชนิดเปิดหน้าเหล็กด้านในให้เห็น แบบนี้ ควรรีบทำสีทันที เพราะคราบน้ำจะไปสะสมที่เนื้อเหล็กโดยตรง หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้สีบริเวณปูด และลอกออกเป็นแผ่นๆ ได้

5 สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปอู่รถยนต์!!!

     เวลาจะนำรถเข้าอู่รถยนต์แต่ละทีนั้น หลายๆ คนคงเป็นกังวลอย่างมาก ทั้งเรื่องกลัวโดนฟันราคา กลัวโดนช่างหลอก บ้างก็ไม่อยากเสียเวลา  GRIP จึงนำ 5 สิ่งต้องทำ เวลาไปอู่รถยนต์ มากฝาก 1. ดูอาการของรถให้แน่ใจก่อนว่ามันเสียตรงไหน จุดไหน เปลี่ยนยากไหม อะไหล่เท่าไหร่ อย่างน้อยคุณก็ยังไปแบบคนรู้อะไรบ้าง 2. หาอู่รถยนต์ที่เชื่อใจได้ ลองสอบถามข้อมูลจากผู้เคยใช้บริการ ถ้าเชี่ยวชาญมีมาตรฐาน ก็นัดไปเลย 3. ของมีค่าอย่าทิ้งไว้ เวลาหายไปอาจจะไม่มีใครรับผิดชอบให้ อีก 1 อย่างคือ น้ำมัน อย่าเติมเยอะ (บางอู่แอบดูด) แต่ก็อย่าแห้งไป เดี๋ยวช่างเค้าจะลองรถไม่ได้นะครับ 4. ขอให้อู่ประเมินราคาให้ก่อนตกลงทำทุกครั้ง คุณจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ 5. สุดท้าย เมื่อซ่อมเสร็จ อะไหล่เก่าที่ถูกเปลี่ยน นำกลับมาด้วยเลยครับ จะได้รู้ว่าเปลี่ยนแล้วจริงๆ บางอย่างเอามาขายได้ด้วยนะ เอาเป็นว่า เตรียมตัวแค่นี้ก็สามารถนำรถไปเข้าอู่ได้อย่างสะดวก และดำเนินการได้อย่างสบายใจ ทั้งตัวคุณเองและอู่บริการ  ทางที่ดีควรหาสถานที่บริการ ที่มั่นใจได้ และแนะนำให้มาที่ “GRIP”  เพราะเรามีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลรถของคุณเสมอครับ  

โอ้ยยยยย อากาศร้อนฝุดๆเลย

          โอ้ยยยยย อากาศร้อนฝุดๆเลยใช่ไหมคร๊าบบบบ  แล้วยิ่งขับรถไปจอดตากแดดเอาไว้ พอกลับมขึ้นรถปุ๊ป แทบกรี๊ดเลยล่ะสิ   กว่าแอร์จะเย็น เร่งแล้วเร่งอีก เปิดสุดๆ เร่งสุดๆ  แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่ดับร้อนบนรถด้วยวิธีนี้คร๊าบ 1. เปิดหน้าต่างหนึ่งบาน 2. เปิดปิดประตูบานตรงข้ามหน้าต่างบานนั้น 5-6 ครั้ง แค่นี้ก็สามารถไล่ความร้อนออกไปได้ง่ายๆ เลยหล่ะคร๊าบบบบ

ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน?

           ในช่วงเวลานี้ที่ข้าวของทุกอย่างแพงไปหมด ตั้งแต่ข้าวแกงยันอาหารตามสั่ง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดลง ทำให้ทางค่ายรถยนต์ต่างๆ หันออกมาผลิตรถยนต์ประหยัดน้ำมันกันอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามถึงจะขับรถประหยัดน้ำมันกัน แต่ถ้าหากไม่รู้วิธีขับรถยนต์ที่ถูกต้องก็จะสิ้นเปลืองค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเทียบเท่ากับรถธรรมดาทั่วไปได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งการขับรถที่ดี นอกจากมีสติและถูกกฎจราจรแล้ว ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ ยังต้องรู้จักวิธีขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน เพราะนั่นหมายถึงการเซฟเงินในกระเป๋าได้แบบสุด ๆ ซึ่งวิธีที่เรานำมาฝาก รับรองว่าไม่ยากเกินกว่าที่จะทำตามกันได้แน่นอนคะและตอนนี้เรามาดูหลักการขับรถให้ประหยัดน้ำมันกันดีกว่าค่ะ                                     การสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์ขณะที่รถจอดอยู่กับที่ เพียงขับเคลื่อนรถเบาๆ 1-2 กิโลเมตรเครื่องยนต์จะอุ่นเองไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์แล้วจอดอยู่กับที่ เพราะการติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 2 นาที สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี. และหลังไฟเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัดดับลงแล้ว คุณก็สามารถเคลื่อนรถออกได้อย่างช้าๆแล้วค่อยๆเร่งเครื่องยนต์ทีละน้อยโดยไม่ควรใช้รอบสูงตรงนี้ทำให้เครื่องยนต์อุ่นตัวได้เร็วขึ้น           […]

มาทำความรู้จักการล้างรถที่ถูกวิธีกันเถอะ

ปีระกานี้ อยากดูดีมีพลังชีวิต ไม่ต้องพึ่งหมอดูที่ไหน ไม่ต้องทำอะไรให้มาก แค่เช็ดถูรถยนต์ให้สะอาดเอี่ยมอ่อง ขับไปไหนก็ดูดีมีราศีกันได้ง่ายๆ รถก็เหมือนผู้หญิงที่ต้องการการถนอมผิว อาบน้ำ ทาครีมบำรุง เพราะทุกวันต้องเจอกับแดดร้อน มลพิษ ฝุ่น และควัน ซึ่งไม่ต่างจากรถยนต์ ดังนั้นหากว่าเราจะหันมาใส่ใจกับเจ้าเพื่อนมีล้อให้มากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย ว่าไหม?  

เทคนิคในการซื้อรถใหม่ให้คุ้มค่า : ทดลองขับเป็นสิ่งสุดท้าย

การทดลองขับรถนั้นเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเลือกซื้อรถคุณควรทดลองขับรถหลังจากต่อรองทุกสิ่งอย่างจนพอใจเรียบร้อยแล้วจริงๆซึ่งพนักงานขายมักจะคะยั้นคะยอให้คุณทดลองขับรถให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อขับรถแล้วถูกใจก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถอีกอย่างที่จะฝากไว้คือไม่ว่าคุณจะถูกใจรถมากแค่ไหนให้ทำหน้านิ่งกึ่งๆไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เอาไว้ก่อนเพื่อให้เซลล์คิดว่าคุณไม่พอใจเท่าไรนักจะเริ่มหยิบยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูสกิล Poker face ระหว่างคุณ กับ เซลล์ด้วยนะครับว่าใครจะเทพกว่ากัน

เทคนิคในการซื้อรถใหม่ให้คุ้มค่า : อย่าด่วนตัดสินใจ

  ไม่ว่าคุณจะอยากได้รถมากแค่ไหนให้จำไว้ว่าอย่าไปดูรถเพียงครั้งเดียวแล้วตัดสินใจซื้อเลยบางครั้งอารมณ์ที่เราอยากได้มากๆก็ทำให้เราหลงลืมข้อควรระวังบางอย่างไปอย่างไม่น่าให้อภัย แม้ว่าเซลล์มักจะพยายามปิดการขายให้เบ็ดเสร็จทันทีที่เรานั่งโต๊ะเจรจาเพื่อสร้างยอดขายแต่ทุกครั้งที่มานั่งโต๊ะหลายคนมักจะคิดว่าเราจำเป็นต้องตกลงในข้อเสนอที่ถูกหยิบยื่นมาทั้งที่จริงๆแล้วทุกอย่างยังสามารถตัดสินใจได้เทคนิคอย่างนึงคือพูดให้น้อยฟังให้มากที่สำคัญอย่าหลงเสน่ห์เซลล์ไม่ว่าจะหน้าตาดีแค่ไหนทั้งหมดนั่นก็แค่ธุรกิจเท่านั้นให้ตั้งสติแล้วสอบถามรายละเอียดข้อสงสัยมาให้ละเอียดและนำข้อเสนอไปตัดสินใจแล้วกลับมาใหม่ภายหลังเพื่อจะสามารถได้คิดตรึกตรองให้ดีได้ไม่ต้องรีบเพราะรถไม่หนีไปไหนแน่นอนแถมบางครั้งที่เรากลับมาใหม่อาจจะได้ข้อตกลงที่ดีกว่าก็เป็นไปได้เช่นกัน

เทคนิคในการซื้อรถใหม่ให้คุ้มค่า : เลือกรถในสต๊อค

  ตัวแทนจำหน่ายรถบางรายได้เครดิตในการนำรถมาเก็บไว้ในสต็อคเพื่อขาย ถ้าอยากได้ข้อเสนอดี ๆ ทั้งส่วนลด ของแถม ลองเลือกดูรถที่อยู่ในสต็อค โดยเฉพาะรถที่เก็บมานานกว่า 3 เดือน เพราะตัวแทนจำหน่ายอยากจะขายรถพวกนี้ออกไปก่อนเพื่อนำเงินไปจ่ายให้แก่บริษัทแม่นั่นเอง

เทคนิคในการซื้อรถให้คุ้มค่า : เลือกฤกษ์ให้ดี

อ๊ะๆ ผมไม่ได้หมายถึงให้ไปจับยามสามตาดูฤกษ์ยามอะไรหรอกนะครับ เพียงแค่จะบอกว่า ช่วงใกล้สิ้นเดือนพวกเซลล์ตามศูนย์รถต่างๆ ก็พยายามจะปิดยอดให้ได้ มีส่วนลด ของแถมอะไร ก็จะงัดออกมาล่อใจให้ลูกค้าอย่างเราๆ ตาโต เพื่อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ทางลูกค้าอย่างเราๆ ก็มีอำนาจต่อรองมากกว่าปกติอีกด้วย นอกจากเลือกวันที่แล้ว ลองไปแต่เช้าดูครับ เพราะ เซลล์มักจะให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มาก่อนเสมอ

เทคนิคในการซื้อรถใหม่ให้คุ้มค่า : ข้อมูลแน่น ปึ๊ก !!

ปีใหม่แล้ว หลายๆ ท่านที่อยากจะถอยรถใหม่รับปีใหม่ซักคัน  การซื้อรถใหม่คันนึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ครับ ก่อนจะตัดสินใจซื้อรถ นอกจากจะเลือกรุ่นรถที่เหมาะสมกับการใช้งาน และ เงินในกระเป๋าของคุณแล้ว ซึ่งคิดง่ายๆ ให้ลองคำนวณดูเลย หากคุณมีกำลังสามารถผ่อนรถที่ระยะเวลา มากกว่า 4 ปี ขึ้นไป แปลว่ารถคันนั้นเกินกำลังของคุณ จากนั้น คุณควรค้นหาข้อมูล ทั้งเรื่องโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย ของแถมต่างๆ เช็คหลายๆ โชว์รูม รวมไปถึงศึกษาในเว็บบอร์ดคาร์คลับสำหรับรถรุ่นต่างๆ ที่คุณสนใจ ดูว่าคนที่ซื้อไปก่อนแล้วมีปัญหาอะไรบ้าง มีข้อควรระวังที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจหรือไม่ ดีกว่าจะมานั่งเสียใจทีหลังกันนะคร๊าบบบบ…

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 10 : สัตว์ขวางทาง

สัตว์ขวางทาง ในกรณีนี้คนกรุงคงจะไม่มีโอกาสได้เจอแน่นอน แต่สำหรับพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ยิ่งใช้เส้นทางขึ้นเขา เข้าป่า อยู่เป็นประจำก็มีโอกาสได้เจออยู่บ่อยครั้งครับ อันดับแรกเลยคือ ควรลดความเร็ว แต่ไม่ควรเบรกอย่างรุนแรง หรือ หักหลบทันที เพราะอาจทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้ 
และ ไม่ควรหักหลบไปในช่องทางที่มีรถแล่นสวนมา หากไม่เร่งรีบ ควรปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นเดินจนพ้นจากถนน ที่สำคัญไม่ควรบีบแตรไล่ เพราะอาจทำให้สัตว์ตกใจและ หันมาทำอันตรายได้ การแซงควรเลี้ยวไปด้านหลังของสัตว์ เพราะการตัดหน้าจะทำให้สัตว์ตกใจและเตลิด จนทำให้เกิดอันตรายต่อรถยนต์ในช่องทางอื่นได้

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 9 : สิ่งของหรือสิ่งแปลกปลอมตกอยู่บนถนน

  สิ่งของหรือสิ่งแปลกปลอมตกอยู่บนถนน ในกรณีนี้อันดับแรกเลย คือ ไม่ควรแล่นทับ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายได้   ขั้นแรกควรลดความเร็ว หากช่องทางทั้งซ้าย-ขวาไม่มีรถยนต์แล่นตามหลังมา ให้หักหลบโดยพยายามเบี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะการหักหลบมาก ๆ ในขณะที่ขับเร็ว รถยนต์อาจหมุนหรือปัดเป๋ได้หากเลี่ยงไม่ได้ หลังการทับหรือชน ควรจอดรถและตรวจสอบชิ้นส่วนใต้ท้องรถว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น คันชัก คันส่ง ท่อส่งเชื้อเพลิง ถังน้ำมัน ยาง ฯลฯ ด้วยความละเอียดรอบคอบซักนิดเพื่อความสบายใจ ก่อนที่จะขับรถต่อไปครับ

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 8 : รถยนต์แล่นสวนเข้ามาในเลน

เมื่อมีรถยนต์แล่นสวนเข้ามาในเลน 
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะในการขับบนถนน 2 เลนสวนกัน ขั้นแรกควรลดความเร็วลง แต่อย่ามากเกินไปจนรถที่ตามมาด้านหลังชนได้ มองกระจกด้านซ้าย เพื่อหาหนทางหนีทีไล่ พร้อมกระพริบไฟสูง และบีบแตรเตือน จากนั้นเบี่ยงออกทางเลนซ้าย ไม่ควรหลบข้ามเลยไปในช่องทางของรถยนต์ที่แล่นสวนมา 
เพราะบ่อยครั้ง คนขับเพิ่งรู้สึกตัวแล้วหักหลบเข้ามาจนทำให้เกิดการชนกันได้  

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 7 : สายคลัชขาด-ปั๊มคลัชรั่ว

  สายคลัชขาด-ปั๊มคลัชรั่ว
 รถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา ถ้าสายคลัตช์ขาดหรือปั๊มคลัตช์รั่ว ไม่ได้หมายความว่ารถยนต์จะแล่นไม่ได้เลย ยังสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อนำรถยนต์ออกจากพื้นที่เป็นระยะสั้น ๆ 
โดยไม่ต้องเข็น หรือ ลากกันได้ไม่ยาก   วิธีปฏิบัติ คือ ตรวจสอบว่าเส้นทางข้างหน้าต้องว่างไม่น้อยกว่า 10-20 เมตร ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด เปิดสวิตช์กุญแจ เข้าเกียร์ 1 ไว้ กดคันเร่งประมาณ 1-2 ซม. บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ค้างไว้ ตัวรถยนต์จะกระตุกเป็นจังหวะตามการหมุน ของเครื่องยนต์ และ ไดสตาร์ท เคลื่อนที่กระตุกไป ทีละนิดจนกระทั่งเครื่องยนต์ทำงาน ก็กดคันเร่งลงไปมากขึ้นเพื่อเร่งความเร็ว เกียร์จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่สามารถใช้ความเร็วได้เกือบเต็มที่ของความเร็วสูงสุดของเกียร์ 1 คือ ประมาณ 30-40 กม./ชม. ถ้าเส้นทางข้างหน้าว่างก็สามารถขับไปได้เรื่อย ๆ เมื่อต้องเบรก 
ก็กดแป้นเบรกลงไปเท่านั้น ปล่อยให้เครื่องยนต์ดับแล้วค่อยเริ่มออกตัวใหม่

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 6 : กระจกหน้าแตก

  กระจกหน้าแตก 
มักไม่ค่อยมีปัญหา หากกระจกหน้าเป็นแบบลามิเนท 2 ชั้น ซึ่งมีแผ่นฟิล์มเหนียวคั่นกลาง 
เพราะ กระจกจะไม่ร่วงเป็นเม็ดข้าวโพด เหมือนกระจกแบบเทมเปอร์ชั้นเดียวโดยแผ่นฟิล์มเหนียวตรงกลางจะเป็นตัวยึดไม่ให้เศษกระจกแยกออกจากกัน จึงทำให้พอมองทะลุผ่านและขับต่อไปได้ไกล   แต่ถ้าเป็นกระจกแบบเทมเปอร์ จะแตกรวดเร็วมาก เพียงจุดแตกเล็ก ๆ ก็ทำให้เนื้อกระจกสูญเสียความแข็งแรง และ เกิดรอยร้าวทั่วแผ่นเป็นฝ้าขาวจนไม่สามารถมองผ่านได้ ผู้ขับจึงต้องตั้งสติให้มั่นและค่อย ๆ ชะลอความเร็ว แล้วเบี่ยงรถยนต์เข้าสู่ไหล่ทาง ถ้าเหลือกระจกติดที่ขอบ ให้ใช้ไม้หุ้มผ้าหนาๆ หรือ กระดาษหนังสือพิมพ์ในการกระแทกเศษกระจกที่ยังติดอยู่บนขอบออกให้หมด โดยควรหากระดาษหรือผ้ารองบนแผงหน้าปัดและฝา กระโปรงหน้า เพื่อป้องกันเศษกระจกหล่นลงไปในช่องแอร์ หรือ ขูดขีดสีตัวถัง ขณะที่ขับรถยนต์ที่ไม่มีกระจกบังลมหน้า ควรปิดกระจกทุกบาน การเปิดระจกหน้าต่างทำให้ลมมา ปะทะกับคน และทำให้รถยนต์มีการทรงตัวไม่ดีจากลมที่ไหลผ่าน 
ถ้ามีแผ่นกันแดดหรือแว่นสายตาก็ควรนำมาใส่ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและเศษกระจกที่อาจค้างอยู่

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 5 : เครื่องยนต์ร้อนจัด-น้ำหม้อน้ำแห้ง


เครื่องยนต์ร้อนจัด-น้ำหม้อน้ำแห้ง
 ถ้าไม่ได้เกิดจากการรั่วซึมผิดปกติ แต่เกิดจากการหลงลืมเติมน้ำหม้อน้ำก็สามารถเติมน้ำเข้าไปให้เต็มได้ เพราะถ้าหากมีการรั่วเติมลงไปก็รั่วออกมาอีก
 การเติมน้ำ ต้องมีเทคนิคและใจเย็น   วิธีการ คือ จอดรถยนต์หลบในที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์ รอให้เครื่องยนต์เย็นลงบ้าง หาผ้าหนา ๆ และ ผืนกว้างพอสมควร เช่น ผ้ายางรองพื้นในรถยนต์ คลุมฝาหม้อน้ำให้มิด แล้วบิดออกเล็กน้อยก่อน เพื่อให้แรงดันภายในคลายตัวออกบ้าง เมื่อแรงดันคลายตัวออกมามากในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที ค่อย ๆ เปิดฝาหม้อน้ำต่อ ให้ระวังไอหรือน้ำร้อนพุ่งขึ้นมา ต้องคลุมผ้าผืนหนาไว้ให้มิดชิดมาก ๆ อย่ารีบเติมน้ำลงไปในทันที เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้ก่อน รอให้เครื่องยนต์คลายความร้อน อาจต้องรอถึงกว่า 20-30 นาที การเติมน้ำต้องเติมครั้งละนิด ไม่ควรเกินครึ่งลิตร แล้วทิ้งช่วงสัก 5 นาที เพื่อให้น้ำที่เติมดึงความร้อนกระจายกันให้ทั่ว เพราะโลหะที่ร้อนจัดเมื่อถูกน้ำเย็นทันที จะหดตัวลงอย่างรวดเร็วจนร้าวหรือเสียหายได้

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 4 : รถหลุดออกจากทาง

รถหลุดออกจากทาง
 อาจเป็นเพราะหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน ทำให้ไถลออกนอกเส้นทาง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรกอย่างแรง เพราะอาจทำให้ล้อล็อกหรือลื่นไถลจนเสียการทรงตัว วิธีที่ถูกต้อง ควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรกแล้วปล่อย พร้อมกับการลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย นอกจากนั้น สายตายังต้องมองทาง ไปข้างหน้า เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง ไม่ควรหักหลบทันที เพราะอาจพลิกคว่ำได้ ย้ำอีกครั้งครับ เพียงขอแค่มี “สติ” อยู่กับตัว อย่างน้อยก็ช่วยให้หนักเป็นเบาได้ครับ

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 3 : คันเร่งค้าง

  คันเร่งค้าง 
ฟังดูแล้วรู้สึกหลอนคล้ายภาพยนตร์เรื่อง Speed เร็วกว่านรก เลยครับ แต่ ณ ที่นี้ คืออุบัติเหตุล้วนๆ ครับ เรามาดูกันว่ากรณีนี้ เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง   สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ใช้เบรกในการชะลอความเร็วโดยไม่ต้องแตะคลัตช์  ให้ใช้คลัตช์เฉพาะในการเปลี่ยนเกียร์เพื่อช่วยลดความเร็วลงเมื่อจำเป็น 
และ ประคองรถยนต์เข้าสู่ไหล่ทางพร้อมกับใช้ปลายเท้าสอดเข้าใต้แป้นคันเร่งเพื่องัดขึ้น หากแป้นคันเร่งไม่สามารถงัดขึ้นได้ ให้บิดกุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ แต่ อย่าบิดกุญแจกลับไปจนถึงจังหวะที่พวงมาลัยล็อก และใช้เบรกชะลอความเร็วลงเรื่อย ๆ จนถึงไหล่ทาง สำหรับรถยนต์เกียร์ออโต้ ให้เปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ N เปิดไฟฉุกเฉิน ห้ามดึงเบรกมือเป็นอันขาด จากนั้นความเร็วจะค่อยๆ ลดลง แล้วเหยียบเบรกเป็นระยะ พร้อมทั้งประคองรถเข้าสู่ไหล่ทาง

การเอาตัวรอดยามคับขัน เมื่อเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่ 2 : เบรกแตก

  เบรกแตก 
รถยนต์ทุกรุ่นในปัจจุบัน ใช้น้ำมันเบรก เป็นตัวถ่ายทอดแรงดัน ระหว่างการกดของเท้าไปยังผ้าเบรก เสมือนเป็นระบบไฮดรอลิกชนิดหนึ่ง ดังนั้น จึงอาจมีการรั่วซึมขึ้นได้จากการรั่วของ ลูกยางตัวใดตัวหนึ่งหรือท่อน้ำมันเบรกรั่ว การถ่ายทอดแรงดันก็จะสูญเสียลงไป   ระบบเบรกมักแบ่งการทำงานออกเป็น 2 วงจร อาจเป็นแบบล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง หรือเป็นแบบไขว้ล้อหน้าซ้าย-ล้อหลังขวา และ ล้อหน้าขวา-ล้อหลังซ้าย เผื่อว่าวงจรใดวงจรหนึ่งชำรุด เพื่อให้ระบบยังมีประสิทธิภาพ การทำงานหลงเหลืออยู่บ้าง ดังนั้น เมื่อเบรกแตกหรือน้ำมันเบรกเกิดการรั่ว 
 ส่วนใหญ่ มักหลงเหลือประสิทธิภาพการทำงานอยู่หลายสิบเปอร์เซ็นต์ หรือ อีกไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งในอีกวงจร ตั้งสติให้มั่นคง เมื่อเหยียบแป้นเบรกลงไปแล้ว ลึกต่ำกว่าปกติ ต้องเหยียบซ้ำแรง ๆ และถี่ ๆ เพื่อใช้แรงดันในวงจรที่เหลือยู่ ผ้าเบรกจะได้สร้างแรงเสียดทาน ขึ้นมาบ้าง พร้อมกับการลดเกียร์ต่ำครั้งละ 1 เกียร์ จนกว่าจะถึงเกียร์ต่ำสุด แล้วค่อยใช้เบรกมือช่วย โดยการกดปุ่มล็อกค้างไว้ให้สุด เพื่อไม่ให้เบรกจนล้อล็อก ดึงขึ้นแล้วปล่อยสลับกันไป เพื่อลดความเร็ว ถ้าระบบเบรกชำรุดทุกวงจร ต้องใช้การลดเกียร์ต่ำช่วยเป็นหลัก 
แล้วค่อยดึงเบรกมือช่วย เมื่อไล่ลงจนถึงเกียร์ต่ำสุดแล้ว รถยนต์ที่ใช้ระบบเบรกที่มีเอบีเอส ถ้าต้องการเบรกกะทันหัน อย่าเหยียบแล้วปล่อยสลับกันถี่ๆ […]