Date: February 25, 2016
Author: Grip Thailand
นิตโตะซัง ว่า เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ อีโคคาร์ เครื่องเล็กๆ นะครับที่ขายดี แต่ทั้งรถ เอสยูวี กับกระบะเครื่องใหญ่ๆ กำลังทยอยออกมาล่อใจนักซื้อรถชาวไทยกันรุ่นแล้วรุ่นเล่า ดูตัวเลขความจุของเครื่องยนต์และกำลังรวมทั้งเทียบราคากับรุ่นเครื่องเล็ก ผสมกับเงื่อนไขล่อใจหลายๆ อย่าง ก็ทำให้นักซื้อรถใหม่จำนวนไม่น้อย รีบลงชื่อจองกันเป็นการใหญ่ ทั้งที่ราคาเชื้อเพลิงก็แพงหูฉี่
จะโทษคนผลิตรถขายก็ไม่ถูกครับ เพราะเขามีขนาดเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ได้หลายรุ่น แถมรถก็คันใหญ่โตขึ้นทุกวัน สาเหตุของความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาจากน้ำหนักของรถและพื้นที่หน้าตัดตามขวางของรถ รวมกับความเพรียวลม ที่ใช้สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเป็นตัวกำหนด รู้จักกันในชื่อ ค่า “CD” ด้วย
น้ำหนักรถมีผลต่อการกินน้ำมันตอนเร่งความเร็ว ซึ่งต้องใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง ซึ่งต่อไปนี้ผมจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “น้ำมัน” พอได้ความเร็วคงที่แล้ว พลังงานที่ต้องใช้ในการรักษาความเร็วไว้ ก็ยังต้องมาจากน้ำมันอยู่ดี เพื่อ “สู้” หรือหักล้างกับแรงเสียดทานที่ล้อกลิ้งไปบนถนน แรงนี้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับแรงที่ยางถูกกดกับผิวถนน ซึ่งก็คือน้ำหนักรถนั่นเอง
พลังงานที่ใช้ในตอนเร่ง จะถูกทำลายทิ้งไปเมื่อเราเบรก กลายเป็นความร้อนที่จานเบรกและผ้าเบรก พลังงานนี้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับมวลหรือน้ำหนักของรถโดยตรงเช่นเดียวกัน ส่วนแรงต้านอากาศนั้น เกิดขึ้นตลอดเวลาที่รถเคลื่อนที่ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้าตัดตามขวางและความเพรียวลมของรูปทรง แต่ที่มีอิทธิพลต่อแรงต้านอากาศมากที่สุด คือความเร็วของรถครับ และไม่เพิ่มตามส่วนด้วย แต่เพิ่มตามความเร็วยกกำลังสอง นั่นคือแรงต้านอากาศของรถคันเดียวกันที่ความเร็ว 120 กม./ชม. จะมีค่าสี่เท่าของที่ความเร็ว 60 กม./ชม.
แต่ประเด็นที่เราสนใจในบทความนี้ก็คือ ถ้าเป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่เครื่องยนต์ขนาดต่างกัน ใช้งานในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน จะกินน้ำมันต่างกันหรือเปล่า ถ้าต่างกัน มากแค่ไหน ? คำว่า “เครื่องใหญ่” ในที่นี้ของผม ไม่ใช่แค่ใหญ่กว่านะครับ ต้องใหญ่กว่าพอสมควร คือไม่ใช่สองสามร้อยซีซี แต่ควรจะต่างกันหลายสิบเปอร์เซนต์ในการเปรียบเทียบ เช่น ระหว่าง 2,000 ถึง 2,200 ซีซี เปรียบเทียบกับ 3,000 ซีซี ถ้าตอบคำถามนี้เลยอย่างสั้นๆ ก็ต้องตอบว่ากินน้ำมันมากกว่าแน่ และมากเอาการด้วย
ถามว่า ถ้าตัวการสำคัญที่ทำให้รถต้องใช้พลังงานจากน้ำมันในการเคลื่อนที่ อยู่ที่น้ำหนักของรถและแรงต้านอากาศแล้ว รถเครื่องใหญ่จะกินน้ำมันมากกว่าได้อย่างไรในตัวถังเดียวกัน ?
ค่อยมาว่ากันต่อครับ