
มีนักขับรถจำนวนมาก ที่มีความชำนิชำนาญในการขับรถไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่วว่องไว ขับขึ้นเขาลงเขาได้ถูกต้อง แต่พอจะถอยหลังเข้าจอดหรือถอยหลังเพื่อออกรถ หรือถอยหลังเพื่อกลับรถชักจะยุ่งใหญ่ ถอยแล้ว ถอยอีก ไม่ยอมเข้าที่เข้าทางได้สักที บางครั้งมองดูเป็นงุ่มง่ามเงอะงะไปเลยก็มี เพราะอะไรหรือ ก็เพราะว่าการขับรถถอยหลังนั้น การหมุนพวงมาลัยจะให้ความรู้สึกกลับกัน เพราะหมุนที่ล้อหน้า แต่กลับมาให้ความรู้สึกสนองตอบที่ล้อหลัง ดังนั้นผู้ที่ไม่ฝึกหัดให้ชำนิชำนาญและคุ้นเคยกับปฏิกิริยานี้ มักจะขับได้ไม่ค่อยดี
1. คือ ต้องพยามยามขับถอยหลังให้ความเร็วรถช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ และ ล้อหน้าเท่านั้นที่เป็นจุดเล็งให้รถเข้าสู่เป้าหมาย การขับรถถอยหลังนั้นไม่ใช่ของง่ายนัก การฝึกหัดที่ถูกต้องคือต้องหัดถอยช้า ๆ ไปในทางตรง ๆ ก่อน และค่อย ๆ เลี้ยวเป็นมุมพอคล่องแคล่ว จับอาการได้ดีแล้วจึงฝึกเลี้ยวซิกแซก ที่ยากขึ้น ในการหมุนพวงมาลัยขับรถถอยหลัง เพราะจะต้องหมุนพวงมาลัยเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อยก่อนถึงจุดเลี้ยว และเมื่อคืนพวงมาลัยให้ตรงก็ต้องหมุนให้เร็วว่าปกติสักเล็กน้อย รถจึงจะเข้าอยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการ ทั้งนี้จะต้องประกอบด้วยการถอยอย่างช้า ๆ เพื่อมีเวลาดูสิ่งกีดขวางทั้งข้างหน้าและข้างหลังอย่างระมัดระวังตลอดระยะ เวลาที่รถถอยหลัง
2. ท่านั่งในการขับถอยหลัง จะต้องขยับตัวจากที่นั่งจากปกติ จะขยับไปทางใด มากน้อยเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณว่าเหมาะสมอย่างใด และจะถอยหลังเลี้ยวซ้ายหรือถอยหลังเลี้ยวขวา เช่น ถ้าจะถอยหลังเลี้ยวซ้าย คุณควรจับพวงมาลัยด้วยมือขวาและถือได้ว่าในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนถ้าเลี้ยวขวา ก็ควรถือพวงมาลัยไว้ด้วยมือซ้ายตำแหน่ง 12 นาฬิกาเช่นกัน ถ้าร่างกายอ้วนมาก อึดอัด ก็ให้ใช้มือที่ว่างพาดที่เบาะอีกตัวเพื่อประคองตัวเอาไว้ หรือที่เบาะนั่งของที่นั่งคนขับก็ได้